0 ความคิดเห็น
iPhone 4 เปิดให้จอง 15 มิ.ย นี้เหรอ?
ในงาน WWDC 2010 ชื่อเต็มๆ คือ Worldwide Developers Conference San Francisco 2010
ใน งาน WWDC นี้เรามักได้เห็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยคุณลุง Steve Jobs CEO ของบริษัท APPLE เสมอ ไม่ว่าจะเป็น iPod, iPad, และ iPhone และครั้งนี้ก็เหมือนกับทุกครั้ง เราก็ได้เห็นการเปิดตัว iPhone 4 อย่างเป็นทางการ ดูๆ ไปตัวเครื่อง iPhone 4 นี้ก็เหมือนกับภาพที่หลุดออกมาเป็นข่าวก่อนหน้านี้




ใคร ที่เบื่อบอดี้เดิมๆ ครั้งนี้ iPhone มีบอดี้ใหม่ออกแบบด้วยวัสดุที่เรียกว่า Engineered Glass เป็นวัสดุที่ใช้กับ เฮลิคอปเตอร์และรถไฟความเร็วสูง กันรอยขีดข่วนได้ดีกว่า และยังรีไซเคิลได้ด้วย

iPhone 4 มีสองสีคือ สีขาวและสีดำแต่ก็สามารถเปลี่ยนขอบ iPhone 4 ได้หกสี(ผมไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับเปลี่ยนขอบจริงๆ ครับ) มีสีขาว ดำ ฟ้า เขียว ส้ม และชมพู



iPhone 4 หน้าเพียง 9.3 มม. บางกว่า iPhone 3GS ถึง 24%
กว้าง 58.6 มม.
ยาว 115.2 มม.
น้ำหนัก 137 กรัม

iPhone 4 มีกล้อง 5 ล้านพิกเซลทั้งด้านหน้าด้านหลัง + LED Flash ซูมได้ 5 เท่าแบบ Digital
ถ่าย วีดีโอ HD 720p 30 เฟรมต่อวินาที

iPhone 4 มีระบบการแสดงหน้าจอที่เรียกว่า Retina display ที่มีความคมชัดมากกว่าเดิม
กว้าง 3.5 นิ้ว แบบ Multi-Touch
ความละเอียด 960 x 640 ที่ 326 ppi

iPhone 4 มีปุ่มต่างๆ อยู่ด้านนอกไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับ Volume, Silent, Sleep, และสามารถเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ได้

iPhone 4 ใช้ CPU ที่ Apple ผลิตขึ้นเองชื่อ A4 เหมือนกับ iPad
ใช้ระบบปฏิบัติการ iPhone 4 หรือชื่อใหม่ว่า iOS
เล่นวีดีโอแซทด้วย FaceTime
เปิดได้หลายโปรแกรม พร้อมกัน (Multitasking ดีกว่า ipad อีกเพราะ iPad เปิดหลายโปรแกรมไม่ได้)

iPhone 4 รองรับ Bootooth, Wifi และมี GPS
รองรับ GSM (850, 900, 1800, 1900 MHz)
รองรับ 3G UMTS/HSDPA/HSUPA (850, 900, 1900, 2100 MHz)
ฟัง วิทยุได้ และรองรับภาษาไทย

ราคาของ iPhone 4 คือ
ความจุ 32 GB อยู่ที่ $299
ความจุ 16 GB อยู่ที่ $199
ก็เลยทำให้ iPhone 3GS 8 GB เหลือเพียง $99

iPhone 4 เริ่มเปิดให้จองได้ 15 มิถุนายน และจะได้เครื่องวันที่ 24 มิถุนายน ใน 5 ประเทศ คือ
ประเทศอเมริกา
ฝรั่งเศส
เย อรมันนี
อังกฤษ
และญี่ปุ่น

อ้าว! แล้วเมื่อไร iPhone 4 จะมาประเทศไทยล่ะครับ?

Android คืออะไร? มาอยู่ในมือถือได้ยังไง? เพื่ออะไร?

0 ความคิดเห็น
Android คืออะไร?

สำหรับบางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้จักว่ามันคืออะไร วันนี้เราลองมาทำความเข้าใจกันดีกว่าครับ
วงการมือถือในปัจจุบันมีโทรศัพท์กลุ่มที่เรียกว่า SmartPhone ซึ่งคือมือถือที่ทำอะไรได้มากกว่า โทรเข้า-ออก โดยสามารถเข้าถึงบริการต่างๆบนอินเตอร์เน็ตผ่าน App(แอพลิเคชั่น หรือโปรแกรม)บน Smartphone ทำให้โทรศัพท์มือถือในกลุ่ม SmartPhone เป็นอะไรที่ดึงดูดผู้ใช้ งานมือถือที่ต้องการอะไรที่ใหม่ๆ เข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร และเกิด LifeStyle ใหม่ๆ ซึ่งในปัจจุบัน เจ้าตลาด SmartPhone คือ iPhone ของบริษัทแอปเปิ้ล ที่โด่งดังมาตลอดในช่าม 3-5 ปีที่ผ่านมา โดยยังไม่มีใครมาทาบรัศมีได้.. แต่แล้วในปีนี้เราเริ่มจะเห็นมือถือหลายรุ่นที่มีหน้าตาการทำงาน คล้ายกัน และมีความสามารถที่ทัดเทียมกับ iPhone และใน บางกระแสบอกว่า ความสามารถของเจ้ามือถือนี้ ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า iPhone เสียอีก… ผู้คนเรียกขานเจ้า มือถือหลายรุ่น หลายยี่ห้อ แต่มีหน้าตาการทำงานที่เหมือนกันนี้ว่า “Android(แอนดรอยด์) Phone”



Android(แอนดรอยด์) คืออะไร? และ Android(แอนดรอยด์) Phone คืออะไร?
วิธีที่จะเข้าใจว่า Android(แอนดรอยด์) คืออะไร? อย่างง่ายๆ ให้เราลองนึกถึง คอมพิวเตอร์ที่บ้านครับ ตอนนี้ใช้ Windows อะไรอยู่ครับ บางคนก็จะตอบว่า Windows 7, Windows Vista บางคนก็ตอบว่า Windows XP หรือบางคนอาจจะตอบว่า ผมไม่ใช้ Windows ผมใช้ Linux ซึ่งจะเป็น Linux รุ่นไหนก็ว่ากันไป … Windows หรือ Linux เราเรียกมันว่า ระบบปฏิบัติการ(OS) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ถ้าคอมพิวเตอร์ไม่ลง Windows ก็จะเปิดเครื่องเพื่อทำงานไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น โทรศัพท์มือ ถือ SmartPhone ก็เช่นเดียวกันครับ มันต้องการ OS ซึ่งใน iPhone นั้นบริษัทแอปเปิ้ลใช้ OS ที่ชื่อว่า iPhone OS ครับ ในขณะที่บริษัทกู เกิ้ล(Google) บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที อีกรายก็ได้ซุ่มพัฒนา OS ที่มีชื่อว่า Android(แอนดรอยด์) OS ขึ้นมา



Android(แอ นดรอยด์) Phone คืออะไร?
เราเข้าใจว่ามันมีระบบปฏิบัติการ iPhons OS และ Android OS แล้วนะครับ เมื่อเรานำระบบปฏิบัติการ iPhone OS ไปลงในมือถือ(เหมือนที่เราเอา Windows ไปลงในคอมพิวเตอร์) มือถือที่ลงเจ้า iPhone OS ก็จะกลายเป็นโทรศัพท์มือถือ iPhone อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ และเมื่อเราเอา Android OS ไปลงในมือถือ เราก็จะได้ Android Phone … แต่ความแตกต่างกันของ iPhone และ Android Phone ก็คือ iPhone มีผู้ผลิตรายเดียวคือแอปเปิ้ล จะไม่มีใครในโลกนี้ สามารถเอามือถือมาลง iPhone OS กลายเป็น iPhone มาขายได้อย่างแอปเปิ้ล ในขณะที่ Android(แอนดรอยด์) Phone นั้นใครๆก็ผลิตได้ เพราะกูเกิ้ลแจก Android OS ฟรีๆ เราจึงเห็นโทรศัพท์มือถือ Android Phone หลายรุ่นในตลาดมือถือ ซึ่งผลิตจากหลายบริษัท ทั้ง Samsung , Sony ericsson, HTC หรือแม้แต่กระทั่ง Motorola ..
Android 2.1 หรือ Android 2.2? ตัวเลขข้างหลังคืออะไร? เพื่ออะไร?
Android(แอนดรอยด์) 2.1 เป็นหมายเลขเวอร์ชั่นของ Android Phone ครับ เหมือนที่ Windows มีทั้ง Windows95, Windows 2000, Windows XP, Windows Vista ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเวอร์ชั่นที่พัฒนาต่อๆกันมาของ Windows ครับ ใน Android OS เองก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ตอนนี้ Android OS มีทั้งหมด 4 เวอร์ชั่นและมีชื่อเล่นสำหรับเรียกง่ายๆด้วยครับ คือ CupCake(Android 1.5), Donut(Android 1.6), Éclair(Android 2.1), Froyo(Android 2.2) จะสังเกตุเห็นได้ว่า ชื่อรุ่นทุกรุ่นเป็นของหวานทั้งหมดเลยครับ และในรุ่น Android 3.0 ที่จะพัฒนาในอนาคตก็จะมีชื่อว่า Gingerbread อีกด้วย.. แค่อ่านชื่อก็อิ่มแล้ว..

ติดตั้ง iPad บนรถคันแรกของโลก ใครอยากได้บ้างยกมือขึ้น!

0 ความคิดเห็น


มาดูการติดตั้งเครื่อง iPad ให้เป็น entertainment hub ในรถ Toyota Tacoma กันเห็นแล้วใครอยากมีติดรถไว้สักคันบ้าง ยกมือขึ้น อิอิ

Flow Chart ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับ iPad ได้ง่ายขึ้น

0 ความคิดเห็น
หลายๆคนกำลังคิดกลับไปกลับมาว่า ฉันจะซื้อ iPad ดีไหมนะ? คิดไปคิดมา จนมึนหัว วันนี้เลยมี flowchart มาให้ช่วยตัดสินใจแบบขำๆ
สุดท้ายแล้วเพื่อนๆจะทำตามผลสุดท้ายของ flowchart หรือไม่ก็ตาม แล้วแต่ใจเพื่อนๆนะ อิอิ

มาดูราคา iPad กันบ้างดีกว่า

0 ความคิดเห็น
วันนี้ขอนอกเรื่องมือถือไปสักเล็กน้อย ช่วงนี้ใครไม่พูดถึงหรือไม่รู้จัก iPad ก็คงจะยังไงๆอยู่
ผมเองขนาดมี iPod แล้ว ตอนนี้ก็เริ่มอยากได้ iPad ขึ้นมานิดๆแล้วเหมือนกัน แหะๆ




ราคา iPad มาบุญครอง (iPad Wifi = 22,500 / iPad 3G = 33,000-35,000)

ราคาอ้างอิงค่ากลาง ขอใช้ราคา iPad 16GB เป็นหลักนะครับ เนื่องจากเป็นรุ่นที่นิยมมากที่สุด ราคา iPad 16GB ที่สำรวจที่มาบุญครอง พบว่า ราคาได้มีการปรับตัวลงนะครับ ราคา iPad รุ่น 16GB อยู่ที่ 22,500 บาท โดยมีราคาเท่ากันเกือบทุกร้าน จะมีบางร้านที่ขายแพงกว่า เช่น 26,900 บาท หรือ 24,000 บาทซึ่งมักจะเป็นที่ร้านที่อยู่รอบนอกนะครับ ส่วนสำหรับ iPad 3G นั้นพบร้านที่มีของขายอยู่ไม่กี่ร้านนะครับที่มี iPad 3G ซึ่งสำหรับราคา iPad 3G ก็เป็นไปตามคาดคือ มีราคาสูงทีเดียว ราคา iPad 3G รุ่น 16GB ขายที่ 33,000 – 35,000 บาทครับ


สำหรับอุปกรณ์เสริมของ iPad ตอนนี้มาบุญครอง มีจำหน่ายกันมากมาย หลายชนิดให้เลือกแล้วนะครับ ทั้งแบบ
- ซิลิโคนแบบแข็ง ซิลิโคนแบบอ่อน ราคา 390-500 บาท
- Soft Case ผ้าบุฟองน้ำ ราคา 300 บาท
- ซองหนัง ซึ่งมีทั้งแบบมีขาตั้งและไม่มีขาตั้ง ราคา 500-700 บาท สำหรับแบบไม่มีขาตั้ง ส่วนแบบมีขาตั้งราคา 650-800 บาท
นอกจากเรื่องของซองใส่ iPad(ไอแพ ด) แล้ว ในคราวนี้ ผมมีภารกิจหลักอีกอย่างคือการตามล่าหา Mifi ด้วยครับ ซึ่งปรากฏว่า ในมาบุญครองไม่มี Mifi ขายครับ


ราคา iPad พันธุ์ทิพย์ ( iPad Wifi = 24,900 )

สำหรับ ห้างดังย่านประตูน้ำ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า มี iPad ขายแค่ร้านเดียวครับ ราคา iPad Wifi 16GB ขายที่ราคา 24,900 บาท แต่ไม่มี iPad 3G ขายนะครับ สำหรับอุปกรณ์เสริมพวกซองหนัง ซิลิโคน ไม่พบร้านไหนขายนะครับ แต่ว่า สามารถหา Soft case ของ Netbook ขนาด 10 นิ้วมาใช้กับ iPad ได้ครับ


ส่วน Mifi ผมเจอร้านหนึ่ง ชั้นสี่ จะมี Mifi ของ Huawei ขายนะครับ ราคาขาย Mifi ราคา 4,900 บาทครับ สำหรับใครที่สงสัยว่า Mifi คืออะไร มันก็คืออุปกรณ์ที่ใช้แปลงสัญญาณโทรศัพท์มือถือ 3G หรือ EDGE , GPRS ไปเป็น Wifi เหมาะสำหรับคนที่มี iPad Wifi และไม่คิดจะเปลี่ยนไปใช้ iPad(ไอแพ ด) 3G แต่ก็ยังอยากได้ใช้ internet ได้ทุกที่นะครับ เราก็ใช้ 3G บน iPad Wifi ได้ครับ โดยไม่ต้องกังวลกับราคา iPad 3G

แนะนำมือถือ Internet Phone (มือถืออินเทอร์เน็ต)

0 ความคิดเห็น
เป็นที่ทราบกันดี ว่าเดี่ยวนี้จะเปิดเว็บไซต์ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ค หรือเน็ตบุ๊ค แต่เพียงอย่างเดียวอีกแล้ว เพราะ โทรศัพท์มือถือ รุ่นต่างๆ มากมายนั้นก็สามารถนำมาเปิดดูเว็บไซต์ได้เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะมีขนาดหน้าจอที่เล็กกว่ามากก็ตาม แต่ในทางตรงกันข้ามก็ได้เปรียบในเรื่องของการพกพาที่มากกว่าเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์มือถือ ส่วนใหญ่ ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการเปิดดูเว็บไซต์ในระดับที่ใช้งานได้จริง ส่วนใหญ่จะประมวลผลได้ช้า ไม่รวดเร็วทันใจ โดยเฉพาะหน้าเว็บไซต์ขนาดใหญ่ หรือไม่รองรับการแสดงผลเนื้อหาแบบพิเศษ เช่น แฟลช เป็นต้น ด้วยข้อจำกัดหลายๆ ประการ กระทั่งอาจจะทำให้หงุดหงิดใจจนเลิกใช้ไปเลยก็มี แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในปัจจุบันก็ทำให้ โทรศัพท์มือถือ บางรุ่นสามารถรองรับการใช้งานด้านอินเทอร์เน็ต หรือเปิดดูเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพในระดับที่ควรจะเป็น เพียงพอที่จะทดแทนการเปิดเว็บไซต์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ในระดับหนึ่งเลยที เดียว




Internet Phone ระดับเหรียญทอง
HTC HD2

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/spec/HTC_HD2.asp
ด้วยคุณสมบัติ และความสามารถในหลายๆ ด้านของ HD2 ที่เอื้ออำนวยต่อการใช้งานด้านอิน เทอร์เน็ต หรือเปิดเว็บไซต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงส่งให้ HD2 คว้ารางวัลนี้ไปนอนกอดอีกหนึ่งรางวัล ซึ่งจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ HD2 เป็น มือถืออินเทอร์เน็ต ระดับเหรียญทอง ก็มีตั้งแต่ หน้าจอสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ถึง 4.3 นิ้ว พร้อมระบบสัมผัสที่มีการตอบสนองที่รวดเร็วแม่นยำ ทุกการควบคุมทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว หน่วยประมวลผลที่เร็วแรงถึง 1 GHz รอง รับการสัมผัสแบบหลายจุด หรือ Multi-Touch หน่วยความ จำขนาดใหญ่ที่ช่วยให้การทำงานราบรื่นไม่มีสะดุด และยังมีเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระดับสูงที่หลากหลายครบถ้วน ตั้งแต่ WiFi, HSDPA, EDGE หรือ GPRS และที่ สำคัญอีกอย่างก็คือ HD2 สามารถรองรับการเปิดดู เนื้อหาแบบ Flash ได้ด้วยนั่นเอง

Internet Phone ระดับเหรียญเงิน
Apple iPhone 3GS

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/spec/Apple_iPhone_3G_S.asp

ยังคงเป็น โทรศัพท์มือถือ แบบทัชโฟน ที่ยอดเยี่ยมที่สุดรุ่นหนึ่งในเรื่องของการเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่เช่นเคย สำหรับ 3GS ด้วยระบบ สัมผัสที่ไว้ใจได้เต็มร้อย รวดเร็วลื่นไหลแม่นยำกว่าใคร การประมวลผลที่ว่องไวทันใจมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งๆ ที่ 3G เดิมๆ ก็เร็วมากแล้ว การรองรับระบบสัมผัสแบบหลายจุด หรือ Multi-Touch ได้ตั้งแต่เกิด หน้าจอขนาดใหญ่ 3.5 นิ้วที่แสดงผลได้ชัดเต็มตา และมีสีสันสดใสสมจริง และสำหรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย ก็มีใส่มาให้ครบครันไม่แพ้รุ่นไหน ตั้งแต่ WiFi, HSDPA, EDGE หรือ GPRS แต่ข้อด้อยของ iPhone ทุกๆ รุ่นที่ผ่านมา จนถึง 3GS รุ่นล่า สุดนี้ ก็ยังคงเป็นเรื่องที่มันไม่สามารถรองรับการเปิดดูเนื้อหาแบบ Flash ได้นั่นเอง ด้วยข้อจำกัดหรือเงื่อนไขด้านธุรกิจบางอย่างที่ไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน

Internet Phone ระดับเหรียญทองแดง
HTC Hero

ข้อมูลเพิ่ม เติม : http://www.thaimobilecenter.com/spec/HTC_Hero.asp

มาถึงรุ่นสุดท้ายสำหรับ มือถืออินเทอร์เน็ต กันแล้ว ซึ่งก็ได้แก่ HTC Hero นั่น เอง สำหรับ Hero นั้นก็เป็น สมาร์ทโฟนระดับสูง รุ่นหนึ่งที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS ซึ่ง แน่นอนว่าระบบปฏิบัติการนี้มีจุดเด่นในเรื่องของความเร็วในการทำงานเป็นทุน เดิมอยู่แล้ว ประกอบกับคุณสมบัติหลายๆ อย่างของ Hero นั้นก็เหมาะกับการนำมาใช้งานด้านอินเทอร์เน็ต หรือเปิดเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่หน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 3.2 นิ้ว ที่ตอบสนองได้ดั่งใจ การรองรับระบบสัมผัสแบบหลายจุด หรือ Multi-Touch การ รองรับการเปิดดูเนื้อหาแบบ Flash และมีเทคโนโลยีการ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายใส่มาให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตั้งแต่ WiFi, HSDPA, EDGE หรือ GPRS และด้วยการ ที่ Android OS เป็นระบบปฏิบัติการที่มาแรงสุดๆ ในช่วงนี้ ในอนาคตก็น่าจะมีแอปพลิเคชั่นด้านอินเทอร์เน็ตมาให้ใช้งานกันอีกมากมายอย่าง แน่นอน

แนะนำมือถือ Camera Phone (มือถือถ่ายรูป)

0 ความคิดเห็น
โทรศัพท์มือถือ ที่ถ่ายรูปได้ หากเป็นเมื่อก่อนอาจจะดูน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ในปัจจุบันมีวางจำหน่ายอยู่มากมายในท้องตลาด จนแทบจะกลายเป็นฟังก์ชันพื้นฐานไปเสียแล้ว อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์มือถือ ที่วางจำหน่ายอยู่ส่วนใหญ่ก็ใช่ว่าจะมีกล้องดิจิตอลที่ใช้ถ่ายรูปได้ดีจริงๆ เพราะมักจะอยู่ในระดับที่พอถ่ายได้ หรือถ่ายสนุกๆ เท่านั้น จะนำมาใช้งานแทนกล้องดิจิตอลจริงๆ คงยังห่างไกล แต่ก็มี โทรศัพท์มือถือ อยู่บางรุ่นที่โดดเด่นกว่าเพื่อนในเรื่องของการถ่ายภาพ จนแทบจะนำมาใช้งานแทนกล้องดิจิตอลจริงๆ ได้เลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติหลายๆ อย่างที่แทบจะถอดแบบมาจากกล้องดิจิตอลจริงๆ เช่น ความละเอียดของภาพที่มากสุดถึงระดับ 12 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ ไฟแฟลชในตัว ฟังก์ชันตรวจจับใบหน้า ฟังก์ชันตรวจจับรอยยิ้ม ฟังก์ชันตรวจจับการกระพริบตา หรือการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง เป็นต้น



Camera Phone ระดับเหรียญทอง
Sony Ericsson Satio

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/spec/Sony_Ericsson_Satio_Idou.asp

คว้ารางวัลเหรียญทองมาได้แบบเฉียดฉิวอยู่ เหมือนกัน สำหรับ Satio แต่ก็น่า จะเป็นรุ่นที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดแล้ว ด้วยกล้องดิจิตอลในตัวที่มีความละเอียดมากถึง 12 ล้าน พิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบในฝันของบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วย โทรศัพท์มือถือ นั่นคือไฟแฟลชแบบซีนอนนั่นเอง ที่ให้ความสว่างของแสงในระดับสูงสุด ส่วนคุณภาพของภาพที่ได้นั้นก็ถือว่าสูงมาก หากเทียบกับกล้องใน โทรศัพท์มือถือ ทั่วไป นอกจากนั้นก็ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ เกี่ยวกับการถ่ายภาพที่โดดเด่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ การโฟกัสภาพแบบสัมผัส ฟังก์ชันตรวจจับใบหน้า ฟังก์ชันตรวจจับรอยยิ้ม และการถ่ายภาพวิดีโอที่ความละเอียดระดับ VGA ซึ่งความละเอียดของการถ่ายภาพวิดีโอนี้อาจจะยังไม่สูงมาก นัก หากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมของกล้อง แต่ก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง อีกทั้ง Satio ยังมีจุดเด่นในด้านอื่นๆ อีกมากมาย เช่น จอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว ที่ใหญ่เต็มตา การประมวลผลที่รวดเร็วทันใจ ระบบปฏิบัติการ Symbian OS ที่ช่วยให้ลงโปรแกรมที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพได้อีกมากมาย รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านระบบ WiFi, HSDPA แถม ยังมีจีพีเอสมาให้ในตัวอีกด้วย


Camera Phone ระดับเหรียญเงิน
Samsung Omnia HD i8910

ข้อมูลเพิ่ม เติม : http://www.thaimobilecenter.com/spec/Samsung_i8910_Omnia_HD.asp

จะว่าไปแล้ว คุณภาพของภาพถ่ายของ Omnia HD ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า Satio เลยแม้แต่น้อย หากเทียบกันที่ระดับ 8 ล้านพิกเซลเหมือนกัน แต่ด้วยความสามารถโดยรวมของ Omnia HD ที่ยังเป็นรอง Satio อยู่นิดๆ ก็เลยทำให้ Omnia HD จำต้องรับรางวัลที่สองไปแบบไม่ เอกฉันท์ เอาเป็นว่าระหว่าง Omnia HD กับ Satio ใครถูกชะตากับรุ่นไหนเป็นพิเศษ ก็สอยมาได้เลย คุณภาพไม่ได้หนีกันแต่อย่างใด ในระดับความละเอียดที่เท่าๆ กัน ซึ่งสำหรับกล้องดิจิตอลของ Omnia HD นั้นก็มีความ ละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งถ่ายภาพได้ละเอียดคมชัดสุดๆ มีไฟแฟลชแบบแอลอีดี ระบบป้องกันภาพสั่นไหว ฟังก์ชันตรวจจับใบหน้า ฟังก์ชันตรวจจับรอยยิ้ม และที่สำคัญคือ Omnia HD ยังสามารถถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงถึงระดับ HD หรือ 720x480 Pixels ด้วยความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที อีกด้วย เรียกได้ว่าถ่ายวิดีโอได้ละเอียดกว่ากล้องดิจิตอลจริงๆ บางรุ่นเสียอีก นอกจากนั้นด้วยการที่ Omnia HD ทำงานอยู่บนระบบ ปฏิบัติการ Symbian OS จึงให้การใช้งานมีความ ยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยแอปพลิเคชั่นที่มีให้เลือกใช้อยู่อย่างมากมายนั่นเอง

Camera Phone ระดับเหรียญทองแดง
LG GC900

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/spec/LG_GC900_Viewty_Smart.asp

มาถึงรางวัลสุดท้ายของสุดยอด มือถือถ่ายรูป กันเสียที ซึ่งรางวัลนี้ก็ตกเป็นของ LG GC900 ที่ความสามารถโดยรวมก็ถือว่าสูสีกับสองรุ่นด้านบนเป็นอย่างมาก ด้วยกล้องดิจิตอลที่ความละเอียดมากถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์กล้องคุณภาพสูงจาก Schneider-Kreuznach Optics ที่เชื่อถือได้ในคุณภาพของรูปภาพ ไฟแฟลชในตัวแบบแอลอีดี ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ ระบบป้องกันภาพสั่นไหว ฟังก์ชันตรวจจับใบหน้าที่จับใบหน้าได้พร้อมกันถึง 3 ใบ หน้า ฟังก์ชันตรวจจับรอยยิ้ม และที่พิเศษสุดๆ อีกอย่างก็คือสามารถถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงถึงระดับ HD หรือ 720x480 Pixels ด้วยความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที นั่นเอง ส่วนความสามารถอื่นๆ นอกเหนือจากการถ่ายภาพแล้ว ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร ตั้งแต่หน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้วที่มีความละเอียด ระดับ WVGA พร้อมส่วนติดต่อผู้ใช้แบบ S-Class Touch UI รองรับ WiFi, HSDPA และ มีระบบจีพีเอสในตัว แถมยังรองรับการใช้งานด้านความบันเทิงได้เป็นอย่างดี เช่น สามารถเปิดดูไฟล์วิดีโอแบบ DivX หรือ XviD ได้ด้วย เป็นต้น
Copyright © Mobile Man News